เจ้าของบทประพันธ์ คุณ ซุ่ม


ฝืน 14 ตอนตีปลาหน้าไซ

“มาถึงก่อนพี่ซะอีกนะเนี้ย…ขับเร็วเหมือนกันน๊า”
สุพจน์เอ่ยขึ้นขณะเดินผ่านประตูห้องสูท VIP
ภายในร้านคาราโอเกะชื่อดัง
ภายในเป็นห้องไว้สำหรับร้องคาราโอเกะสำหรับลูกค้า VIP
ที่กว้างขวางเบาะผ้าชั้นดีขนาดใหญ่ตั้งในลักษณะรูปเกือกม้า
มีจอโทรทัศน์พร้อมอุปกรณ์คาราโอเกะวางอยู่ตรงกลาง
ภายในห้องมีห้องน้ำในตัวซึ่งก็นับว่ากว้างขวางเช่นกัน
โดยทางร้านจะให้เฉพาะลูกค้ามีระดับเท่านั้นเช่นสุพจน์เป็นต้น
สุพจน์นั่งลงข้างๆเชอรรี่ สาวน้อยวัยขบเผาะ
เหล้าและกับแกล้มชั้นดีถูกนำมาเสริฟท์ให้กับหนุ่มสาวทั้งสามคน
ขณะที่ทั้งหมดกำลังเริ่มร้องเพลงตามเมนูที่กดไว้
สุพจน์เองเขาไม่ค่อยร้องเพลงกับสาวๆเท่าไหร่นักภายในใจกำลังครุ่นคิดหาวิธีขยี้สวาทสองสาวซึ่งเป็นใครก็ได้ระหว่างสองคนนี้

จนกระทั้งเมื่อเวลาผ่านไปไม่นานในจังหวะที่เพลงที่เลือกไว้หมดลงและสองสาวกำลังง่วนอยู่กับการมองหาชื่อเพลงที่อยากจะร้อง

“โทษทีครับพี่ถามอะไรซักอย่างได้เปล่าครับน้องแนนน้องเชอรรี่”

“ถามมาซิค่ะพี่พจน์....พี่เป็นเพื่อนพี่เก่งเจ้านายของเชอรรี่ถึงตอบไม่ได้ก็จะตอบ”
เชอรรี่กล่าวตอบเรียบๆโดยตายังคงจ้องไปที่สารบัญเพลงเพื่อช่วยแนนซึ่งก็อยู่ในลักษณะเดียวกันโดยไม่ได้เหลียวหันมามองสุพจน์
“คือพี่เห็นบอกว่าเป็นเชียรลีดเดอร์ทั้งคู่เลย
แล้วเรียนปีไหนกันครับนี่”
“เชอรรี่เพิ่งเข้าปี 1 ค่ะ แต่แนนอยู่ปี 2 แล้ว”
เชอรรี่กล่าวโดยยังคงมองชื่อเพลงกับเพื่อสาวเช่นเดิม
“แล้วนี่มาเป็นพริตตี้ให้ไอ้เก่งเล่นๆแก้เซ็งหรือว่าหารายได้เสริมครับ”

“โอ้ยพี่พจน์ขา....เชอรี่กับแนนไม่สนใจเงินค่าตัวหรอกค่า....ค่าเสื้อผ้ากับของใช้เราสองคนมากกว่าค่าตัวพริตตี้อีก”
“นั้นนะซิพี่ก็สังเกตุนะว่าเราสองคนคงมีฐานะดีพอควรเหมือนกัน...แต่.. อ้าว...แล้วมาทำงานนี้ทำไมละครับ.....พี่เห็นพริตตี้บางค่ายต้องแต่ตัวโป๊ๆ โชว์สัดส่วนให้พวกที่มาดูรถจ้องกันตาเป็นมันเลย”
คำพูดของสุพจน์ทำให้ทั้งเชอรรี่และแนนต้องละสายตามที่จ้องหาเพลงหันกลับมามองที่เขาอย่างพร้อมเพรียงกัน
“เราทำเพราะบางอย่างใช้เงินซื้อไม่ได้ค่ะพี่พจน์”
คำตอบนี้ของเชอรรี่ทำเอาสุพจน์ถึงกับเลิกคิ้วทั้งสองข้างขึ้นด้วยความสงสัย
“ชื่อสียงค่ะพี่พจน์......จะได้มีคนรู้จักเยอะๆ...มีกล้องมาถ่ายเราออก โทรทัศน์มีคนมาสัมภาษณ์......เพื่อมีแมวมองมาเห็นจะได้ชวนไปถ่ายโฆษณา
เผลอๆได้เล่นละครอีก”
สาวแนนตอบไขความกระจ่างให้เขาเมื่อเห็นสีหน้าที่งุนงงกับคำตอบแรก
“ใช่ค่ะพี่พจน์....พวกเราก็ไม่ใช่ขี้เหร่ซะหน่อย...อยู่ในมหาลัยวันๆไม่มี แมวมองมาหรอกค่ะ....ครั้นจะให้วิ่งไปเทศหน้ากล้องตามที่เขาเปิดรับสมัครแบบ นั้นนะ...เราไม่เอาหรอก....เสียเกรดหมด..เดี๋ยวพวกเพื่อนๆมันหาเราอยากดัง
จริงไหมแนน”
“ใช่ค่ะพี่พจน์....ถ้าเป็นแบบมีพวกครีเอทีฟมาเห็นแล้วเชิญไปถ่ายแบบนะ...อย่างนี้ดังกว่าอีก”
สาวแนนเสริมต่อแล้วก็ชวนเชอรรี่หันกลับไปหาชื่อเพลงที่ยังค้างอยู่
ใช่แล้ว.......ความคิดเขาแล่นขึ้นมาบนหัวอย่างรวดเร็ว......หญิงสาวพวกนี้ อยากโด่งดังเป็นที่รู้จักและสนใจทั่วไปของกลุ่มวัยรุ่น...แม้พวกเธอเหล่า นั้นจะมีเงินและฐานะ.....แต่การจะก้าวมาเป็นดารานั้นจะต้องได้รับการสนับ สนุนด้วยซึ่งดาราวัยรุ่นในปัจจุบันนี้ส่วนใหญ่นอกจากฐานะทางบ้านดีอยู่แล้ว ยังเป็นพวกนามสกุลเก่าแก่ที่อาศัยพื้นฐานของครอบครัวผลักดันเข้าวงการ
แต่สำหรับเธอสองคนนี้แม้ฐานะทางบ้านจะดีแต่ก็เป็นแบบเศรษฐีใหม่ไม่มีเส้นสายใดๆ
ครั้นจะเที่ยววิ่งไปขอเทศหน้ากล้องตามงานต่างๆก็กลัวเสียเครดิตและถูกนินทาหาว่าอยากดัง
จึงต้องอาศัยช่องทางนี้เพื่อผลักดันพวกเธอให้เป็นที่รู้จักและได้การยอมรับ
ขณะที่คิดประติดประต่อความต้องการของสองสาว
สุพจน์ก็เหลือบตาลงมองช่วงล่างของสาวเชอรรี่ที่นั่งติดกับเขาสิ่งที่เห็นเล่นเอาท่อนเอ็นในกางเกงกระตุกโดดผึงขยายยาวออกทันที
เพราะด้วยเรียวขายาวสวยของวัยรุ่นยุกต์ที่ดื่มนมเป็นกิจวัตร
เมื่อต้องนั่งลงบนโซฟาที่สูงจากพื้นไม่มาก
ท่านั่งของสาวน้อยที่หย่อนก้นลงโซฟาตัวเดียวกับเขาจึงตั้งนั่งชันเข่าสูง ขอบกระโปรงสั้นรัดเข้ารูปที่สวมใสจึงรั้งลงมาจากที่เคยปกปิดไว้แค่ครึงต้นขา อวบขาวกลายเป็นร่นมาปกปิดแบบหมิ่นเหม่แค่เพียงแก้มก้น
ความขาวอวบของแก้มก้นหล่อนที่อัดแน่นตามวัยสาวขบเผาะจึงล้นออกมาปริ่มๆจากกระโปรงตัวนั้น
ดีแต่ว่าเธอนั่งหนีบเข่าชิดทั้งสองข้างไว้มิฉะนั้นห่างเผลอนั่งอ้าขาออกซักนิด
โหนกนูนของสาววัยขบเผาะผู้นี้คงจะแอ่นโคกกระดองเต่าที่มีชั้นในปกปิดไว้โผล่ พ้นขอบกระโปรงด้านหน้าที่ร่นขึ้นจนปิดแค่ต้นขาแอ่นโคกอูมๆยื่นล่อสายตาเขา ทันที

“โถ่เอ๋ย........แค่นี้เองไม่เห็นยากอะไรเล้ย”
สุพจน์กล่าวขึ้นพร้อมละสายตาจากสิ่งล่อตาล่อใจแล้วหันกลับไปยกเหล้าดื่มเพื่อระบายความกำหนัดที่เริ่มอัดแน่นขึ้น
คำพูดแสดงความง่ายที่จะก้าวไปเป็นดาราขวัญใจวัยรุ่นเล่นเอาทั้งสองสาวถึงกับหันกลับมามองที่เขาเป็นตาเดียวกัน
“ฮา....พี่พจน์รู้จักคนในวงการหรือค่ะ”
เชอรี่ผู้ที่เริ่มจุดประกายความกระสันต์ของเขาส่งเสียงร้องออกมาด้วยความตื่นเต้นผสมกับความหวังจากคำพูดดังกล่าว
“ใช่ครับก็พี่กับพี่เก่งเป็นสปอนเซอร์รายการโทรทัศน์
นิตยสารตั้งหลายอย่าง
เวลาบริษัทโฆษณาเขาจะทำอะไรเขาจะถามเราก่อนว่าเจาะจงใครไหมเป็นพิเศษที่จะ ให้เป็นนายแบบหรือนางแบบ……..แต่ส่วนใหญ่พี่จะปล่อยให้พวกเขาเลือกกันเองนะ ครับไม่ค่อยไปยุ่ง....แล้วนี้หลังจากงานมอร์เตอร์โชว์ที่น้องสองคนไปเป็นพรี เซ็ฯเตอร์นะเราจะมีสปอร์ตภาพยนต์แนะนำรถรุ่นใหม่พอดี....เห็นเขากำลังหานาง แบบอยู่”
“โถ่พี่พจน์ขา.......แนะนำแนนกับเชอรรี่ให้เขาหน่อยได้ไหมค่ะ....น๊ะน๊ะ”
สาวแนนกระโดดตัวลอยจากที่นั่งลุกวิ่งอ้อมสุพจน์ด้านหน้าลงมานั่งข้างๆเขาอีก ข้างทันทีพร้อมกับใช้สองแขนขาวเรียวสวยๆของเธอดึงแขนของสุพจน์ขึ้นมาคล้อง แขนทั้งสองข้างของตัวเองพร้อมเขย่าไปมาเหมือนเด็กน้อยๆที่กำลังรบเร้า ผู้ใหญ่ยามที่อยากได้ของเล่น
เธอหมดความระมัดระวังในกิริยาท่าทางโดยสิ้นเชิงเพราะกำลังอยู่ระหว่างตื่นเต้นกับโอกาสตรงหน้าที่สุพจน์พูดขึ้น
ทันทีที่หย่อนก้นงอนๆลงบนโซฟา
สองเข่าที่ยามนั่งปกติจะหนีบชิดกันกลับขยับไปมาอ้าๆหุบๆ
เนินอวบอูมน้อยๆของสาววัยขบเผาะที่อยู่ภายในชั้นในสีขาวลายตุ๊กตาจึงโผล่พ้น ชายกระโปรงที่ปิดอยู่แค่ต้นขาโผล่ออกมาวับๆแวมๆเล่นเอาสุพจน์ต้องขยับตัว เล็กน้อยเพื่อให้เกิดช่องว่างในกางเกงให้เจ้าดุ้นเอ็นที่เด้งตัวขึ้นทันที ทันใดมีพื้นที่ขยับขยายพองตัว
เมื่อสายตาของเขาไปบรรจบกับโคกนูนๆที่อยู่กลางหว่างขาขาวอวบของสาวน้อย

“งั้นเดี๋ยวพี่โทรไปให้เลย.....ผู้กำกับคงยังไม่หลับหรอกเพราะนอนกันดึกอยู่แล้ว”
สุพจน์หยิบโทรสัพท์ขึ้นมาทำท่าทางกดเบอร์โทรออกแล้วรอสักพักจากนั้นจึงพูดขึ้นเหมือนมีคนสนทนาอยู่ด้วย
“คุณศักดิ์เหรอ...นี่ผมสุพจน์น๊ะเรื่องนางแบบโฆษณารถรุ่นใหม่ของเก่งเป็นไง บ้างครับ..........อ้อได้แล้วเหรอ....คืองี้ครับคุณศักดิ์พอจะเปลี่ยนได้ไหม ผมอยากแนะนำน้องสองคนที่เป็นพริตตี้อยู่กับทางเราให้คุณศักดิ์แทนนะครับ.... จำได้ไหม......ใช่สองคนนั่นแหละครับสวยมากทั้งคู่
...อ้าวทำไม่ละ”
สองสาวได้ยินคำว่าสวยมากทั้งคู่ถึงกับแสดงความตื่นเต้นขึ้นมาทันทีแต่แล้วก็ต้องหยุดนิ่งลงเมื่อได้ยินประโยคที่ตามมา
สุพจน์ทำท่าเหมือนฟังเสียงฝั่งตรงข้ามพร้อมกับทำสีหน้านิ่วคิ้วขมวด
แต่หากทั้งสองสาวแย่งโทรศัพท์จากมือเขามาดูก็จะรู้ว่ากำลังถูกหลอกและตกอยู่ในแผนการณ์เจ้าเล่ห์ของจิ้งจอกสวาทอย่างเขา

“ตายแล้วคุณศักดิ์ทำไมคุณทำอย่องนั้นละ...แล้วนี้แสดงว่านางแบบทุกคนเลยใช่ ไหมครับ....แล้วพอจะบอกเด็กของคุณให้ไปเป็นแบบแทนเรื่องหน้าได้ไหมละ .........คุณมีทางไม๊ละ”
น้ำเสียงที่ส่ออาการพยายามช่วยเหลือสองสาวสุดๆทำเอาทั้งคู่มีสีหน้าเศร้าสร้อยลงทันที
“จะบ้าเหรือคุณ.....ผมคงทำไม่ได้....แล้วอีกอย่างผมก็ไม่รู้หรอกน๊ะว่าน้องสาวทั้งสองคนนี้เป็นยังไง......แค่นี้แล้วกันน๊ะครับ”
พูดจบสุพจน์ก็หันมาบอกกับสาวน้อยทั้งสองคนพร้อมแสดงท่าอึดอัดใจให้เธอสองคนเห็น
“เออ...พี่ว่าโอกาสหน้าแล้วกันน๊ะครับพอดีติดขัดนิดหน่อย”
“มีอะไรหรือค่ะพี่พจน์....เห็นเมื่อกี้พี่พจน์บอกว่าไม้รู้แนนกับเชอรรี่เป็นยังไง...หมายความว่าอะไรหรือค่ะบอกเรามาเถอะ”
สาวเชอรรี่ที่อยู่ข้างเขาอีกด้านกล่าวขึ้นด้วยสีหน้ากังวลและเศร้าสร้อยเอ่ยขึ้นพร้อมกับขยับตัวเข้าชิดเขาอีก
ทำให้จังหวะขยับก้นเบียดร่างเข้ามาของเธอจึงเผยให้เห็นโคกอวบเท่าฝ่ามือโผล่พ้นขอบกระโปรงเช่นเดียวกับสาวแนนเมื่อครู่
“อื้อ...นี้ก็นูนเหมือนกันโว้ย”
เขานึกในใจขณะรอโอกาสการขยับตัวของหล่อนอยู่ก่อนแล้ว
“เอ่อคือ...ผู้กำกับเขาบอกว่าจะต้องถ่ายทำหนังในอีก 2
วันข้างหน้าน๊ะครับกลัวจะไม่ทัน”
“คงไม่ใช่แค่นี้หรอกมั้งค่ะ.....เพราะพี่ยังไม่บอกเลยเรื่องที่ไม่รู้เกี่ยวกับเรา”
สาวแนนเอ่ยขึ้นแบบเคร่งเครียด
“ถ้าพี่บอกเราสองคนต้องไม่โกรธน๊ะ....แต่พี่จะบอกว่ามันเป็นเรื่องปกติในวงการน๊ะ”

“ค่ะพี่....เราสัญญาเพราะพี่พยายามช่วยเราแล้ว...บอกมาเถอะค่ะ”ทั้งสาวแนนและเชอรรี่พูดออกมาแทบจะพร้อมกัน
“คือผู้กำกับเขาบอกว่า.....ปกติคนที่จะเป็นนางแบบเขาจะต้องยอมมีอะไรๆกับเขาก่อนน๊ะครับ”
สุพจน์เอ่ยพร้อมกับหยุดจังหวะลงชั่วครู่จากนั้นจึงพูดขึ้นต่อโดยไม่ได้มองหน้าหญิงสาวทั้งคู่
“นางแบบสองคนนั้นเค้าก็ยินยอมน๊ะ....เค้าก็เลยจำเป็นต้องให้โอกาสทางนั้นก่อน...แต่...”
“แต่อะไรค่ะ...พี่พูดมาเถอะ”
สาวแนนนถามกลับมาอย่างรวดเร็วเมือสุพจน์พูดค้างแค่นั้น
“เอ่อ...พี่ว่าเขาเปลี่ยนได้แต่......คงอยากให้น้องสองคนทำแบบนั้นเหมือนกัน”
พูดจบเขาก็รีบลุกขึ้นยืนทันทีทำเอาสองสาวที่ตกอยู่ในภวังค์ถึงกับสะดุ้งตัวตกใจ
“ไปเรากลับกันเอะครับ....พี่ยอมไม่ได้หรอก...แต่ครั้นจะให้พี่ใช้อำนาจ เปลี่ยนตัวก็ไม่ดี.....เพราะนางแบบสองคนนั้นก็มีอะไรๆกับผู้กำกับไปแล้ว .......อีกอย่างทางเราจ่ายเงินไปแล้วด้วยครับขืนไปขัดเขาเดี๋ยวทำหนังให้ไม่ ดีจะไปกันใหญ่..........และที่สำคัญเค้าบอกว่าถึงน้องแนนกับเชอรรี่จะยินยอม น้องสองคนต้องไม่ใช่สาวบริสุทธิ์ด้วยเพราะเขากลัวจะมีปัญหาภายหลัง......อัน นี้แหละที่ทำให้พี่บอกเขาไปว่าจะรู้ได้ไง”
ทั้งคู่นั่งเงียบหันมาสบตากันด้วยท่าทางผิดหวังโดยที่เขาเองก็ไม่รู้หรอกว่าภายในใจแต่ละคนกำลังคิดอะไร
“ไปกันเถอะครับดึกแล้ว....พี่เซ็งด้วยที่ช่วยแนนกับเชอรรี่ไม่ได้...แหมสี ยดายครั้งนี้ถ่ายหนังโฆษณาเสร็จ...เรากะจะลองให้ไปเทศกล้องแสดงละครต่อพอดี สองคนนั้นเลยโชคดีไป”
สุพจน์กล่าวเสริมความสำคัญของการถ่ายแบบครั้งนี้เพิ่มอีกเพื่อเป็นแรงจูงใจให้กับเธอทั้งคู่ที่จะเข้าสู่หลุมพรางของตัวเอง
“เดี๋ยวพี่ออกไปจ่ายเงินข้างนอกก่อนน๊ะครับ....จะได้กลับกัน”
พูดจบเขาก็ก้าวเดินออกจากห้องไปทันที
ปล่อยให้สองสาวนั่งเงียบมองสบตากันไปมาภายในห้องสูทคาราโอเกะหรูห้องนั้น
“ไม่น่าเลยเนอะแนน.....ไม่งั้นได้ทั้งถ่ายโฆษณา
และได้ลองเล่นละครด้วย” สาวแนนนั่งเงียบไม่ตอบ
จนกระทั้งเอ่ยขึ้นมาช้าๆ
“เราเคยได้ยินเหมือนกันเชอรรี่...เรื่องแบบเนี้ยะ...เห็นเพื่อนๆเราก็พูดกัน บ่อยว่านักแสดงนักร้องใหม่ๆก็ใช้วธีนี้และถึงได้ดังกันเร็วไง”
ยังไม่ทันที่ทั้งสองคนจะพูดอะไรต่อภายในจอโทรทัศน์ที่เดิมเป็นสีน้ำเงินเพราะรอการเลือกเพลงกลับมีเสียงซีดซาดครวญครางออกมา
พร้อมกับภาพการร่วมรักกันของหญิงชายต่างชาติคู่หนึ่งปรากฎขึ้นมาแทน
การร่วมรักในภาพเป็นไปอย่างดุเดือดเผ็ดร้อน
ฝ่ายหญิงนอนอ้าขาถ่างจากกันสุดหล้าอยู่บนโต๊ะกินข้าว
ร้องครวญครางเสียงดังกระเส่าเป็นจังหวะๆตามแรงกระเด้าส่งท่อนเอ็นดุ้นขนาด น้องๆม้าทั้งยาวและใหญ่ของชาวนิโกรซึ่งกำลังยืนแอ่นกระแทกท่อนเอ็นสีดำสนิท เหมือนถ่านแหวกเข้าออกร่องกลีบของหญิงสาวฝรั่งผิวขาวอย่างเมามัน
สองสาววัยขบเผาะนั่งมองภาพที่เห็นนิ่งเงียบทั้งคู่สองกลีบแคมวัยสาวเริ่มมี อาการขมิบไปมาเข้าหากันเป็นระยะๆตามจังหวะกระแทกท่อนลำขนาดมโหฬารของชายผิว ดำในโทรทัศน์

0 ความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็น