เจ้าของบทประพันธ์ คุณ ซุ่ม

ตอนที่ 3

“เฮ้ยพจน์........ทำไมช้าจังว่ะ”
เก่งเอ่ยขึ้นด้วยเสียงอันดังเมื่อเห็นสุพจน์เพื่อนรักกับแพรวา ภรรยาแสนสวยของเขาเดินเข้ามาในงานพร้อมๆกันทำให้ผู้คนรอบๆข้างเก่งหันมามอง ผู้ที่ถูกทักขึ้นพร้อมๆกัน หลายๆคนไม่เคยได้พบหรือรู้จักเธอพียงแต่เคยได้ยินชื่อเสียงถึงความเป็นสาว สวย การศึกษาสูง ฐานะดี ที่ปณิธาน เพลย์บอยไฮโซหนุ่มผู้โชคดีได้เธอมาเป็นภรรยา
“ ก็รอ ภรรเมียของ ฯพณฯท่านมึงแต่งตัวเกือบ 2 ชั่วโมงนะดิ ”
สุพจน์กล่าวตอบกลับไปยังเพื่อนรัก แต่เขาสังเกตเห็นได้ว่าพวกที่อยู่รอบๆตัวเก่งกลับไม่ได้สนใจคำพูดของเขา ทุกคนจ้องไปที่แพรวาเป็นตาเดียว.ซึ่งเขาเองก็ไม่แปลกใจเลย เพราะระหว่างทางที่ขับรถมาก็เกือบจะน้ำแตกไปไม่รู้กี่รอบเพราะชุดที่เธอใส่ มาวันนี้..............ชุดแซคสีดำรัดรูปตัดกับผิวขาวผ่องของช่วงไหล่และแขน ของแพรวา ความยาวของชุดแค่ต้นขาเผยให้เห็นลำขาเรียวงามขาวเนียนของผู้ใส่ ด้านบนเปิดลึกลงมาถึงกลางร่องอก เผยให้เห็นอกขาวนวล เด่นด้วยก้อนเนื้อกลมมลสองข้างที่แม้จะไม่ใหญ่นัก แต่ก็จัดได้ว่าขนาดพอดีมือดันออกมา นูนเด่นด้วยจุดกลมเล็กๆสองจุด กลางเต้างามคู่นั้น
“เฮ้ยไอ้เก่งแล้วเอ็งเห็นน้อง ญาดาไหมว่ะ....เมื่อกี้โทรเข้ามือถือกูบอกว่าเอ็งชวนเค้ามางานนี้ด้วย”
สุพจน์เอ่ยถามกลับไปยังเพื่อนรัก แต่สายตาของเขากลับยังคงไล่มองไปรอบๆบุคคลเพื่อนฝูงของเจ้าเก่ง ซึ่งตอนนี้แต่ละคนแทบจะตาถลนออกมานอกเบ้าทำให้เขาเองต้องหันกลับไปมองที่แพร วาอีกครั้ง เบื้องหน้าที่เห็นเป็นภาพของหญิงสาวในชุดแซคดำตัวเดิมกำลังหันไปยืนทักทาย กับเหล่าหญิงสาวไฮโซอื่นๆที่เข้ามาร่วมงาน แต่ที่ทำให้ทั้งหนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่ตาแทบถลนออกก็คือชุดที่เธอใส่นั้น ด้านหน้าว่าหมิ่นเหม่ต่อความรู้สึกของผู้พบเห็นแล้ว ด้านหลังกลับก่อให้เกิดอารมณ์ทางเพศยิ่งขึ้นกว่าเดิม เพราะชุดนั้นเป็นชุดที่เปลือยแผ่นหลังว่างเปล่าเลยมาเกือบถึงสะโพกพายของผู้ ใส่ อีกทั้งแม้ชุดจะยาวแค่ต้นขา แต่ก็ยังมีการผ่าขึ้นมาอีกเผยให้เห็นถึงขาอ่อนด้านใน เกือบถึงชั้นในตัวน้อยที่สามารถมารถมองเห็นร่องรอยการใส่ได้จากด้านนอกเพราะ ชุดมันบางและแนบเนื้อมาก บวกกับการที่เป็นชุดรัดรูปจึงเน้นสะโพกและบั้นท้ายกลึงมนที่แอ่นงอนขึ้นมา อย่างชัดเจน
“พี่พจน์......ญาดานึกว่าพี่ติดอะไรซะอีกถึงได้เบี้ยวไม่ไปดูหนังด้วยกัน”
สุพจน์สะด้งตื่นจากภวังค์ หันกลับไปมองแฟนสาวที่ตัวเธอเองก็ไม่ได้ด้อยไปกว่า ญาดาเลย อีกทั้งอายุอานามก็เท่ากัน เพียงแต่บุคลิกและนิสัยส่วนตัวของเธอนั้นต่างกับแพรวาอย่างเห็นได้ชัด แพรวานั้นออกไปทางสาวมั่นผู้เรียบร้อยมีความรู้สูง และดูจะวางตัวในงานสังคมตามแต่ละโอกาสสถานที่ แต่ญาดาเองกลับมีบุคลิกไปในทางเชื่อมั่นในตัวเอง กล้า และมีความซุกซนอยู่ในตัว และเข้าสังคมง่าย
“เออ....พอดี พี่อยู่ใกล้บ้านเจ้าเอกมัน.....มันก็เลยวานให้พี่ไปรับคุณแพรมางานนี้นะ แล้วก็งานนี้มีผู้ใหญ่มาร่วมกันหลายคนพี่ก็เลยจำเป็นต้องมา.เลยไปดูหนังกับ น้องดาไม่ได้....ว่าแต่..ทำไมน้องดามางานนี้ด้วยละจ๊ะไม่เห็นบอกพี่เลย”
“ อ้อ..ก็หลังจากพี่เอกเค้าบอกพี่พจน์ให้ไปรับแพรแล้วเค้า ก็โทรมาบอกดาว่าเค้าหรอกให้พี่เอกไปรับแพรมางานเพราะไม่งั้นพี่ไม่ยอมมาแน่ เลย...เห็นพี่เอกเค้าบอกว่างานนี้สำคัญมาก”
“พี่เอกเค้าก็เลยขอโทษดาค่ะแล้วก็เลยชวนดามางานนี้ด้วยเลย....ดาเห็นว่ามีคน รู้จักเยอะก็เลยมาค่ะ...กะว่างานเสร็จจะได้ชวนพี่พจน์ไปเที่ยวต่อชดเชยไงค่ะ ..ดีไหม”
“อือ..ดีเลย..งั้นเดี๋ยวเสร็จแล้วเราค่อยว่ากันอีกทีน๊ะ”
สุพจน์ กล่าวตอบแฟนสาวเสร็จก็ขอตัวไปพบปะกับผู้ร่วมงานคนอื่นๆ โดยไม่สนใจแฟนสาวของตัวเอง ในสมองเขาตอนนี้ปวดขึ้นมา.. ตึบๆ.. เพราะนอกจากกำลังคิดแต่หาวิธีเคลมเมียเพื่อนแล้ว ตอนนี้ยังต้องหาวิธีสลัดหนีแฟนตัวเองอีกต่างหาก ขณะที่กำลังวนเวียนคิดแผนการอยู่นั้นเสียงโทรศัพท์มือถือของเขาก็ดังขึ้น
“เออ...มาแล้วเหรอไอ้วิทย์ เดี๋ยวพี่ลงไป...เอ็งอย่าให้ใครเห็นนะโว้ย....ไอ้เก่งมันอยู่ที่นี้ด้วย กูไม่อยากให้มันรู้ว่ากูนัดมึงมาเดี๋ยวมันสงสัยว่ากูเอาไปใช้กับใคร...เออ มึงยังไม่ต้องถามเดี๋ยวก็ลงไปหา”
พูดจบเขาก็รีบวิ่งลงมาด้านล่างยังล็อบบี้ตรงไปหาหนุ่มนักศึกษาเอกชนชื่อดัง ย่านรามคำแหงทันที โดยเบื้องหลังเขาปล่อยให้แฟนสาวของตนเดินทักทายกับคนรู้จักไปรอบๆงาน โดยหารู้ไม่ว่า ร่างของแฟนสาวในชุดราตรีสีดำ สายเดี่ยวเปลือยแผ่นหลัง กำลังตกในสายตาของเพื่อนรักตนเองเช่นกัน เก่งนั้นบัดนี้จ้องมองร่างหญิงคู่หมั้นของเพื่อนรักด้วยสายตาหื่นกระหาย เขาจ้องมองไปตลอดเรือนร่างของ ญาดา
พร้อมกับเลียฝีปากตัวเองบางๆ ก่อนที่เขาจะตามสุพจน์ลงไปยังด้านล่างเช่นกัน หากแต่จุดหมายอยู่คนละด้าน
“เอานี้...พี่พจน์ผมรับรองเลยว่าพี่จะมันยันเช้าว่าแต่พี่จะไปใช้กับใครละทำให้ไม่ให้พี่เอกรู้”
“เออ.น่า ไว้เสร็จแล้วกูจะบอกมึงเอง...แล้วห้องละมึงเตรียมยัง”
“เรียบร้อยพี่....ก่อนอัดเทปพี่เปิดดูมุมกล้องก่อนก็ได้ ผมรับรองว่าเปิดดูใหม่อีกรอบเห็นจะจะ แต่พี่ผมขออะไรอย่างนึงดิ” “เออ. มึงจะเอาอะไรละถ้าเงิน เดี๋ยวกูจะให้อยู่นี้ไง”
“.เงินนะเอาแน่พี่แต่.......เวลาถ่ายเสร็จมันมีกล้องหลายตัวอัดพร้อมกัน ผมจะขอเป็นคนตัดต่อเองได้ไหมละพี่”
“เฮ้ย...เดี๋ยวกูคิดดูก่อนโว้ยไม่รับปาก.......คนนี้พิเศษหน่อย...กู้ไม่ อยากให้เอกเกริก…ว่าแต่มึงช่วยอะไรกูอีกอย่างดิ...ซัก 2 ทุ่มกูอยากให้มึงโทรเข้ามือถือ น้องดาหน่อย บอกว่าอยากติดต่อกู แล้วบอกว่ามึงมีเรื่องด่วนอยากให้กูไปช่วยด่วน แล้วกูจะให้เงินมึงเพิ่มอีก 2 หมื่น เป็น 5 หมื่น เอาไหมวะ.”
“โถ่..พี่พจน์ ถ้าพี่ดาแกรู้ว่า ผมไปหรอกเอางี้ กลับบ้านไป ผมก็ตายดิพี่ เกิดเลยเถิดไปฟ้องแม่ผมอีก..ยิ่งซวยซ้ำ”
“งั้นตามใจ เอ็งแล้วกัน กูหาวิธีเองก็ได้ว่ะ”
“อ้าว.....อย่าเพิ่งงอนดิพี่ .....แหมว่าที่พี่เขยผมขอร้อยอย่างนี้
ไม่ช่วยได้ไงละครับ....ผมช่วยฟรีไม่คิดเงินครับพี่ แต่
เวลาผมจะหนี้น้องเน็ตบ้างพี่ก็อย่าลืมแล้วกัน......ตกลง 2
ทุ่มนะพี่ผมไปละ มีนัดอีกที่หนึ่ง”
จักรวิทย์พูดจบก็เดินจากไป
แต่อนิจจาสุพจน์ไม่รู้เลยว่าอีกที่หนึ่งที่จักรวิทย์นัดไว้นั้นอยู่ฝั่งตรงข้ามกับที่เขายืนอยู่นั้นเอง........
“..พี่เก่ง....หวัดดีครับ...นี้ของครับ..โทษทีช้าไปหน่อยพอดีเจอเพื่อนข้างนอกนะครับพี่...”
“เออ ..เอานี้เงิน แต่เอ็งไม่ต้องบอกใครน๊ะโว้ย
แม้แต่ไอพจน์ ” “ ครับพี่เอก” จักรวิทย์รับคำแล้วเดินจากมา
ตัวเขาเองก็งงมากกับทั้งเก่งและสุพจน์
รุ่นพี่ซึ่งเคยเรียนสถาบันเดียวกัน
อีกทั้งสุพจน์เองก็เป็นแฟนพี่สาวแท้ๆของตน

0 ความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็น